การกำหนดราคาแบบไดนามิกคือการปรับราคาห้องพักอย่างต่อเนื่องโดยพิจารณาจากความต้องการของผู้เข้าพัก ราคาของคู่แข่ง ฤดูกาลท่องเที่ยว อัตราการเข้าพัก และปัจจัยภายนอกอื่นๆ เพื่อช่วยให้โรงแรมสามารถขายห้องพักได้ในราคาที่แตกต่างกันในแต่ละวันและสร้างศักยภาพการขายห้องพักให้เกิดประสิทธิภาพได้อย่างสูงสุด
การกำหนดราคาขายแบบคงที่: คือการกำหนดราคาห้องพักเท่าๆกันทุกวันโดยไม่คำนึงถึงอัตราการเข้าพัก แนวโน้มของตลาด และความต้องการของตลาด
การกำหนดราคาขายแบบไดนามิก: คือการปรับราคาห้องพักอย่างต่อเนื่องตามสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงโดยเน้นที่อุปสงค์และอุปทาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำกำไร
ข้อดีของการขายห้องพักแบบไดนามิก
โดยปกติแล้วโรงแรมในสมัยก่อนมักจะแบ่งราคาตามซีซั่นและวันหยุดซึ่งทำให้โรงแรมขายห้องพักได้ราคาที่สูงขึ้นเฉพาะในช่วงนั้นเท่านั้น แต่การขายห้องพักแบบไดนามิกคือการตั้งราคาขายให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าและสถานการณ์ของตลาดในแต่ละวันและแต่ละช่วงเวลาเป็นหลักโดยไม่ได้อ้างอิงตามซีซั่นและช่วงวันหยุดเพียงอย่างเดียว ทำให้ในแต่ละวันโรงแรมสามารถที่จะขายห้องพักได้ในราคาที่สูงขึ้นเมื่อมีความต้องการเข้าพักที่มากขึ้นและยังช่วยให้โรงแรมสามารถทำกำไรได้มากขึ้นอีกด้วย
การขายห้องพักแบบไดนามิกเหมาะกับโรงแรมขนาดไหน
ไม่ว่าโรงแรมของคุณจะมีขนาดเล็กหรือขนาดกลางก็สามารถที่จะทำการขายห้องพักแบบไดนามิกเหมือนกับโรงแรมขนาดใหญ่ได้ โดยปกติแล้วในโรงแรมขนาดใหญ่หรือโรงแรมที่เป็นเชนมักจะมีแผนกที่ดูแลจัดการเรื่องราคาโดยเฉพาะ โดยมี Revenue Director หรือ Revenue Manager ทำหน้าที่ควบคุมดูแล ในการวิเคราะห์คู่แข่ง สถานการณ์ทางการตลาด และดีมานด์ของลูกค้าเพื่อนำมาประมวลและกำหนดราคาขายห้องพักในแต่ละช่วงๆ เพื่อให้โรงแรมสามารถทำกำไรได้อย่างสูงสุดและมีประสิทธิภาพ
โรงแรมขนาดเล็กควรมี Revenue Department หรือไม่
แน่นอนว่าการตั้ง Revenue Department ขึ้นมาอาจจะต้องใช้บุคลากรและงบประมาณในการจัดการที่เพิ่มมากขึ้น สำหรับโรงแรมขนาดเล็กที่มีห้องพักไม่เกิน 80 ห้องอาจจะไม่จำเป็นต้องมีแผนกนี้ ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ทำให้ PMS (ระบบการจัดการห้องพักและระบบบริหารโรงแรม) สามารถจัดการเรื่องยุ่งยากเหล่านี้ได้ด้วยระบบ AI โดยไม่จำเป็นต้องใช้บุคลากรที่มากมาย