SHA Plus Manager คืออะไรและมีบทบาทหน้าที่ยังไง?
SHA Plus Manager คือผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งให้ทำหน้าที่ตรวจสอบ ดูแล และติดตามแขกที่เข้าพักให้ปฎิบัติตามมาตรฐาน SHA และรายงานผลต่อศูนย์ปฏิบัติการว่าแขกทุกคนยังคงพักอยู่ในพื้นที่ ไม่แอบเดินทางท่องเที่ยวไปยังจังหวัดอื่นก่อนครบกำหนด 14 วัน โดยแขกต้องแสดงตนแก่ SHA Plus Manager ทุกวันตามกำหนด
นอกจากนี้ยังทำหน้าที่ติดต่อประสานงานจัดหาโรงพยาบาลเพื่อนำแขกส่งตรวจเชื้อโควิด-19 ทุกวันที่ 6-7 และ 13 ตามไทม์ไลน์ 14 วัน และประสานงานดูแลแขกในกรณีที่แขกติดเชื้อเช่นกัน
SHA Plus Manager
บทบาทหน้าที่ของ SHA Plus Manager
- ดูแลสถานประกอบการให้ปฏิบ้ติตามมาตรฐาน SHA
- รักษาระดับการฉีดวัคซีนของพนักงานในองค์กรให้ไม่ต่ำ กว่า 70%
- ควบคุมไม่ให้พนักงานที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนมาสัมผัสกับนักท่องเที่ยว
- หากเกิดเหตุนักท่องเที่ยวไม่ปฏิบัติตามมาตรฐาน SHA หรือข้อกำหนดการเข้าประเทศ ให้ SHA Plus Manager รายงานไปที่ 191 ภายใน 24 ชม.
- ให้ข้อมูลที่ร้องขอ และ อำนวยความสะดวก ในการเข้าตรวจเช็คของ คณะกรรมการ SHA Plus จังหวัด หรือ ผู้ ได้รับมอบหมาย
- ศึกษาข้อมูลการเดินทางเข้าจังหวัด
บทบาทหน้าที่ของ SHA Plus Manager ประเภทโรงแรม
- SHA Plus Manager มีหน้าที่ดูแลให้นักท่องเที่ยวพักให้ครบ ตามจำนวนคืนที่ลงในระบบ SHABA ที่ได้ยื่น ขอ COE (Certificate Of Entry) การเข้าประเทศ
- ในกรณีที่มี นักท่องเที่ยวได้รับผลตรวจ COVID19 เป็นบวกหรือ DETECTED จากผลตรวจ PCMOC (Phuket COVID-19 Medical Opertaion Center) จะติดต่อเพื่อรับตัวนักท่องเที่ยวที่มีผลตรวจเป็นบวก ไปรักษา และ ทำการแยกกักกัน High Risk Contact เพื่อเข้า โรงพยาบาล ALQ (Alternative Local State Quarantine)
- SHA Plus Manager มีหน้าที่ต้องแสกนแอพพลิคชั่นหมอชนะ ของนักท่องเที่ยว อย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง
บทลงโทษเมื่อฝ่าฝืนมาตรการข้างต้น
Customer Journey
Hotel Booking
โรงแรมรับจองโรงแรม และรถรับสนามบิน จากนักท่องเที่ยวผ่านทาง OTAs, Tour operators หรือ โดยตรง เมื่อนักท่องเที่ยวชำระเงินค่าห้องพักทั้งหมดแล้ว โรงแรมออกใบ SHABA ให้นักท่องเที่ยวเพื่อไปขอ COE
Swab Appointment
แนะนำให้นักท่องเที่ยวไปที่ระบบ PSAS บน www.thailandpsas.com เพื่อทำการจองและชำระเงินโดยตรงกับระบบ
At the Airport
ผ่านขั้นตอนด้านสุขภาพ, ด่านตรวจคนเข้าเมือง, ศุลกากรและการตรวจคัดกรอง COVID-19 รวมถึงการทดสอบ RT-PCR ผู้เดินทางต้องมีเอกสารพร้อมแสดงต่อเจ้าหน้าที่ดังนี้ :
- หนังสือเดินทาง
- บัตรตรวจคนเข้าเมืองขาเข้า ‘™ .6’
- หนังสือรับรองการเดินทางเข้าสู่ประเทศไทย
- วีซ่า
- เอกสารยืนยันการจองโรงแรมที่ได้การรับรอง SHA Plus และ SHABA
- ประกันการเดินทาง
- แอพพลิเคชั่น ‘หมอชนะ’ ที่ดาวน์โหลดลงในโทรศัพท์มือถือและทำการ ‘เช็คอิน’ ที่สนามบินนานาชาติภูเก็ต
- เอกสารการเดินทางออกจากสนามบินนานาชาติภูเก็ต ในกรณีที่ผู้เดินทางพักอยู่ในจังหวัดภูเก็ตน้อยกว่า 14 คืน
- ที่สนามบินจะมีป้าย ‘Sandbox’ ชี้ทางให้ผู้เดินทางไปตามจุดตรวจต่างๆ โปรดอย่าสับสนกับทางของ ‘ALQ’ และให้ท่านเดินไปตามเส้นทางของ ‘Sandbox’ เท่านั้น
ดาวน์โหลดและติดตั้งแอปพลิเคชันติดตามที่กำหนดผู้เดินทางจะต้องดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น“หมอชนะ”
เดินทางโดยตรงไปยังโรงแรม SHA Plus ที่จองไว้เพื่อรอผลโดยต้องพักอยู่ในห้อง หากผลตรวจเป็นลบสำหรับ COVID-19 ผู้เดินทางจะได้รับอนุญาตให้เดินทางไปที่ใดก็ได้ในภูเก็ต ยานพาหนะที่จะใช้เพื่อเดินทางไปยังโรงแรม SHA Plus จะต้องเป็นยานพาหนะที่ได้การรับรอง SHA Plus ที่ทำการจองไว้ล่วงหน้าเท่านั้น ผู้เดินทางไม่สามารถแวะที่อื่นระหว่างทางไปโรงแรมได้
At the Hotel
- ในวันที่นักท่องเที่ยวเดินทางมาถึงที่พัก ขอให้นักท่องเที่ยวอยู่แต่ในห้องพักตลอดเวลาจนกว่าผลการตรวจโควิด จะได้รับการยืนยันจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าผลตรวจเป็นลบ โดยผลการตรวจจะถูกรายงานในระบบ SHABA ระยะเวลาในการรอผลตรวจจะอยู่ที่ประมาณ 12 ชั่วโมงหลังจากที่ทำการตรวจที่สนามบินภูเก็ต
- หากเดินทางมาถึงภูเก็ตหลังจาก 18.01 น. วันแรกของการเข้าพักจะถูกนับในวันถัดไป
- เพื่อเป็นไปตามนโยบายของกรมควบคุมโรค ในช่วง 14 วันแรก นักท่องเที่ยวต้องกลับมานอนพักที่โรงแรมหรือรีสอร์ททุกคืนและต้องตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายทุกเช้าโดย SHA Plus และสแกนแอพพลิเคชั่นหมอชนะ
- ในวันที่ 6-7 และ 12-13 ของการเข้าพัก นักท่องเที่ยวจะต้องไปตรวจ Covid-19 SHA Plus Manager ทำหน้าที่ตรวจสอบว่านักท่องเที่ยวได้ไปทำการตรวจจริง ในกรณีที่นักท่องเที่ยวต้องการ Medical Certificate จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม 700 บาท/คน และจะต้องทำจองลงระบบล่วงหน้า 48 ชั่วโมงหรือ 2 วัน เพื่อให้ศูนย์ตรวจโควิดทราบล่วงหน้า นักท่องเที่ยวจะต้องเป็นผู้ไปชำระเองที่ศูนย์ตรวจโควิดในวันตรวจ
- ระหว่างการเดินทางในภูเก็ต ให้ทานยึดตามข้อปฏิบัติ ‘DMHTTA’ อย่างเคร่งครัด อันได้แก่ D – Distancing (เว้นระยะห่าง) M – Mask-wearing (ส่วมหน้ากากอนามัย) H – Hand-washing (ล้างมือสม่ำเสมอ) T – Temperature Check (ตรวจวัดอุณหภูมิ) T – Testing for COVID-19 (ตรวจหาเชื้อโควิด 19) A – contact tracing Application (ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น ‘หมอชนะ’) เปิด GPS ของแอปพลิเคชั่นติดตามผู้ติดต่อที่กำหนดตลอดเวลาตลอดระยะเวลาที่อยู่ในภูเก็ต
- หากนักท่องเที่ยวมีความประสงค์ที่จะเดินทางไปยังจังหวัดอื่นใประเทศไทยหลังจากการเข้าพักครบ 14 วัน นักท่องเที่ยวต้องมีเอกสารการยืนยันการเข้าพักในโรงแรม SHA Plus และผลการตรวจ Covid-19 ที่เป็นลบทั้ง 3 ครั้ง โดยจะต้องแสดงเอกสารที่ด่านตรวจ และต้องปฏิบัติตามมาตรการของแต่ละจังหวัดอย่างเคร่งครัด
Daily Routine
- นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆภายในจังหวัดภูเก็ต โดยจะต้องยึดตามข้อปฏิบัติ‘DMHTTA’ อย่างเคร่งครัด ได้แก่:
D – Distancing (เว้นระยะห่าง)
M – Mask-wearing (ส่วมหน้ากากอนามัย)
H – Hand-washing (ล้างมือสม่ำเสมอ)
T – Temperature Check (ตรวจวัดอุณหภูมิ)
T – Testing for COVID-19 (ตรวจหาเชื้อโควิด 19)
A – contact tracing Application (ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น ‘หมอชนะ’)
- นักท่องเที่ยวต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาในพื้นที่สาธารณะ หากไม่ปฏิบัติตามจะต้องเสียค่าปรับ
- นักท่องเที่ยวต้องแสกนโดยใช้แอพพลิเคชั่น “หมอชนะ” และทำการตรวจอุณภูมิที่โรงแรม ‘SHA Plus’ ทุกวันเป็นเวลา 14 วันของการเข้าพัก เปิด GPSของแอปพลิเคชั่นติดตามผู้ติดต่อที่กำหนดตลอดเวลาตลอดระยะเวลาที่อยู่ในภูเก็ต
Check Out
- นักท่องเที่ยวที่ต้องการพำนักเฉพาะในภูเก็ต (พักน้อยกว่า 14 วัน) จะต้องเดินทางออกจากภูเก็ต ไปยังจุดหมายปลายทางอื่นๆของไทย ต้องแสดงหลักฐานการเข้าพักครบ 14 วันและมีผลตรวจ RT-PCT ครั้งที่ 3 โดย SHA Plus Manager จะทำหน้าที่ออกให้จากระบบ SHABA
- นักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางต่อไปยังจุดหมายปลายทางอื่นๆนอกประเทศไทย สามารถเดินทางกลับได้เลย โดยปฎิบัติตามมาตรการที่ประเทศปลายทางกำหนด
การตรวจ โควิด-19
ทุกโรงแรม SHA Plus จะต้องทำการเซ็น MOU กับศูนย์ประสานงานร่วมด้านการแพทย์โรงพยาบาลภาครัฐและเอกชนในจังหวัด
วันที่ตรวจโควิด
จะตรวจตามตามเงื่อนไขการเข้าพัก ระยะเวลาที่พัก กับการตรวจโควิด
พัก 7 วัน ต้องมีการตรวจำนวน 2 ครั้ง
- มาถึงก่อนเวลา 18.00 นับวันแรกเป็น Day 1
- มาถึงหลังเวลา 18.00 นับวันแรกเป็น Day 0
ตรวจครั้งที่ 1 Day 1/วันแรกที่มาถึง(ตรวจที่สนามบิน) และตรวจครั้งที่ 2 Day 6(ตรวจที่ศูนย์ที่ใกล้กับโรงแรม)
พัก 14 วัน ต้องมีการตรวจจ านวน 3 ครั้ง
- ตรวจครั้งที่ 1 Day 1/วันแรกที่มาถึง(ตรวจที่สนามบิน)
- ตรวจครั้งที่ 2 Day 6 (ตรวจที่ศูนย์ที่ใกล้กับโรงแรม)
- ตรวจครั้งที่ 3 Day 12 (ตรวจที่ศูนย์ที่ใกล้กับโรงแรม)
หมายเหตุ: สำหรับเด็กที่มีอายุ 0-6 ปึ ไม่ว่าจะพัก 7 วัน หรือ 14 วัน จะตรวจเพียงครั้งเดียวDay 1/วันแรกที่มาถึงตรวจที่สนามบิน โดยวิธี Saliva RT-PCR Test (การตรวจหาเชื้อในน้ำลาย)
การทำจองตรวจ โควิด-19
- นักท่องเที่ยวสามารถชำระเงินการตรวจโควิดได้ที่ www.thailandpsas.com
- เอกสารที่นักท่องเที่ยวต้องนำไปแสดงที่ศูนย์ตรวจได้แก่ หนังสือเดินทางหรือพาสปอร์ต ใบเสร็จค่าตรวจ Covidและใบนัดหมายเข้ารับการตรวจ
- การแจ้งผล โรงพยาบาลจะทำการยืนยันกลับไปในระบบ SHABA ข้อมูลผลการ Swab ของโรงแรม
ผลตรวจรอบที่ 1
ผลตรวจวันแรกที่สนามบิน ใช้เวลาประมาณ 6 – 12 ชั่วโมง++ (ในระหว่างนี้นักท่องเที่ยวไม่สามารถออกจากห้องพักได้และไม่อนุญาตให้ครอบครัว ญาติหรือ เพื่อน หรือผู้ที่ไม่ได้ร่วมเดินทางมาด้วยกัน ใน Booking เดียวกัน เข้าพักหรือเจอกับนักท่องเที่ยวก่อน หากผลตรวจครั้งแรก ยังไม่ยืนยันว่าเป็นลบ หรือ NOT DETECTED สามารถตรวจสอบผลการตรวจได้จาก Website Thailandshaba และ หากมีกรณีไฟลท์ Number นั้นมีการประกาศผลตรวจครบทุกคนในไฟลท์แล้ว แต่ไม่มีชื่อนักท่องเที่ยวของท่าน ให้ SHA Plus Manager ส่งชื่อโรงแรม ชื่อนักท่องเที่ยว และ Passport Number ของนักท่องเที่ยว เข้าไปสอบถามได้ที่ PSAS Support Line OA : @256tlxcj ****หากผลตรวจของไฟลท์นั้นยังไม่ออก หรือ ยังออกไม่ครบทุกคน ขอความกรุณาอย่าส่งข้อมูลเข้าไปสอบถามก่อน เนื่องจากเจ้าหน้าที่ทุกท่านกำลังเร่งปฏิบัติหน้าที่อ่านผลตรวจกันอยู่****
ผลการตรวจ รอบที่ 2 และ 3
จะแสดงผลในระบบ SHABA การผลไม่ขึ้นในระบบหลังตรวจแล้ว 24 ชั่วโมง ให้ติดต่อไปที่ PSAS Support Line OA : @256tlxcj
หากพบการติดเชื้อโควิด-19
ศูนย์ประสานงานร่วมด้านการแพทย์โรงพยาบาลภาครัฐและเอกชนจังหวัด
กรณีผู้รับบริการติดเชื้อ COVID-19 ศูนย์ประสานงานร่วมด้านการแพทย์โรงพยาบาลภาครัฐและเอกชนจังหวัด จะจัดให้มีรถพยาบาลรับผู้ติดเชื้อไปเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล
SHA Plus Manager
- จะได้รับการติดต่อจาก ศูนย์ประสานงานร่วมด้านการแพทย์โรงพยาบาลภาครัฐและเอกชนจังหวัด ให้เฝ้าระวังนักท่องเที่ยวในระหว่างรอรถพยาบาล
- เมื่อรถพยาบาลมารับนักท่องเที่ยวไปแล้ว สสจ. จะเข้าร่วมค้นหาผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเพื่อให้แยกกักตัว
- ให้โรงแรมทำความสะอาดฆ่าเชื้อห้องพักและจุดสัมผัสของผู้ติดเชื้อ
- ติดต่อโรงแรม ALQ เพื่อรับตัวนักท่องเที่ยวผู้มีความเสี่ยงสูง
เมื่อรับนักท่องเที่ยวทั่วไปที่ Day 0 ระหว่างรอผล swab
จะดีที่สุดถ้าให้บริการแบบ open-air
- รับนักท่องเที่ยวโดยแต่งกายป้องกันการติดต่อแบบละอองฝอยและสัมผัส โดยต้องสวม mask ตลอดเวลาทั้งสองฝ่าย, สวม face shield และถุงมือ (ถ้าต้องสัมผัสสิ่งของของนทท.)
- ให้นักท่องเที่ยวเข้าห้องพัก และรอจนกว่าผล swab จะออกว่าไม่พบเชื้อ จึงปล่อยให้ออกมาข้างนอกได้
หากผลตรวจ swab เป็นบวก
- นักท่องเที่ยว : จนท.สาธารณสุขหรือรพ.ที่รับผิดชอบศูนย์ swab จะแจ้งนทท.ทราบว่าต้องไปนอน รพ. ให้ SHA Plus Manager รอ รพ.ติดต่อมารับนักท่องเที่ยว
- ผู้มาด้วยกับนักท่องเที่ยว : SHA Plus Manager ส่งข้อมูลโรงแรม ALQ ให้นทท.เลือก และติดต่อประสานงานกับโรงแรม ALQ จนนทท.ได้รับการย้ายโรงแรม กรณีนทท.ต้องการเดินทางกลับประเทศต้นทางเลย ให้ SHA Plus Manager ประสานสายการบินทราบว่านทท.เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง (High Risk Contact : HRC) สายการบินจะมีแนวปฏิบัติและเลือกที่นั่งให้ และต้องประสานแจ้งแพทย์การท่าอากาศยานล่วงหน้าก่อนเดินทาง 1 วัน
การปฏิบัติตัวหรับนักท่องเที่ยว (ติดเชื้อ)
- หลังจากรับแจ้งผลตรวจโควิดเป็นบวกจาก SHA Plus Mnager แล้ว ให้ดำเนินการเก็บกระเป๋า สัมภาระ ของใช้ส่วนตัว และ เอกสาร ทุกอย่าง เพื่อเตรียมเช็คเอ้าจากโรงแรม และเตรียมย้ายไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลในขั้นตอนต่อไป
- ให้นั่งรอภายในห้องพัก จนกว่าทางโรงแรมจะโทรแจ้ง ว่ารถโรงพยาบาลที่จะมารับตัวเดินทางมาถึง
- นักท่องเที่ยวต้องขนสัมภาระ และ กระเป๋า ต่างๆ จากห้องพักลงมาด้วยตนเอง โดยต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา
การปฏิบัติตัวสำหรับพนักงาน
- SHA Plus Manager แจ้งให้นักท่องเที่ยวทราบเรื่องผลตรวจว่าพบเชื้อโควิด
- แจ้งให้นักท่องเที่ยวเก็บกระเป๋า สัมภาระ และเอกสาร ทุกอย่าง เพื่อเตรียมย้ายไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล ( ตามวันและเวลาที่ทางโรงพยาบาลแจ้งมา )
- แจ้งให้นักท่องเที่ยวนั่งรอในห้องพัก จนกว่าทางโรงแรมจะโทรแจ้งว่ารถโรงพยาบาลที่มารับตัวเดินทางมาถึง และแจ้งให้นักท่องเที่ยวสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา
- แจ้งให้นักท่องเที่ยวรับทราบว่าต้องขนกระเป๋าและสัมภาระ ต่างๆ ลงมาด้วยตนเอง ( ป้องกันการแพร่เชื้อ ) และแจ้งนักท่องเที่ยวให้สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา
- ปิดห้องไว้อย่างน้อย 3 วัน ก่อนเข้าล้างแอร์ และทำความสะอาดตามขั้นตอนปกติ ( ส่งผ้าซักทุกอย่าง, หมอน, ไส้นวม , ผ้าม่าน ) และเปิดระเบียงห้องไว้เพื่อระบายอากาศ
- พนักงานที่ปฏิบัติงานในโรงแรม สามารถปฏิบัติงานได้ตามปกติ( ไม่ต้องกักตัว หรือตรวจโควิด ยกเว้นคนที่มีอาการ เช่น มีไข้ไอ หรือมีน้ำมูก )
ทักษะความปลอดภัยของพนักงาน
- การล้างมือ การสวม และการถอด ถุงมือ ด้วยวิธีที่ถูกต้อง
- การใส่และการถอดหน้ากากอนามัย, การใส่ Face Shield, หมวกคลุมผม, เสื้อคลุม, ถุงมือยาง และรองเท้า อย่างถูกต้อง
- ทักษะ และลำดับขึ้นตอนการทำความสะอาดที่ถูกต้อง
อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) สำหรับผู้ที่ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรค
- ควรสวมถุงมือชนิดใช้แล้วทิ้ง ชุดกันเปื้อนแขนยาวพลาสติกชนิดใช้แล้วทิ้ง แว่นตากันลม หรือเครื่อง ป้องกันใบหน้า และหน้ากากอนามัยทางการแพทย์
- ขณะทำความสะอาด หลีกเลี่ยงการสัมผัส ดวงตา จมูก และปาก
- ควรถอดถุงมือและทิ้งทันทีหากชำรุดเสียหายมีรอยรั่ว และสวมถุงมือคู่ใหม่
- ล้างมือด้วยแอลกอฮอล์หลังถอด PPE แต่ละชิ้น และล้างมือด้วยน้ำและสบู่ทันทีหลังถอดอุปกรณ์ครบทุกชิ้น
- พนักงานทำความสะอาดห้องพัก ซักผ้า หรือผู้จัดการขยะ ควรอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนกลับที่พัก (และซักเสื้อผ้าแบบผ้าติดเชื้อในโรงแรม)
แนวทางการทำความสะอาดฆ่าเชื้อโควิด -19 ในสถานที่ที่ไม่ใช่สถานพยาบาล
- ปิดห้องพักทิ้งวัน 1-3 วัน เนื่องจากเชื้อไวรัสสามารถอยู่บนพื้นผิวของวัตถุต่าง ๆ เป็นเวลา 1 – 3 วัน น ้ายาฆ่าเชื้อที่มีประสิทธิภาพในการท าลายเชื้อที่หาได้ง่ายตาม ท้องตลาด ดังนี้
น้ำยาฟอกขาว สามารถใช้สำหรับทำความสะอาดพื้นผิวได้โดยผสมในอัตราส่วนดังนี้
พื้นผิวทั่วไป: ใช้น้ำยาฟอกขาวเจือจาง 1 ส่วนในน้ำ 99 ส่วน (ความเข้มข้น 0.05% หรือเท่ากับ 500 ppm)
พื้นผิวที่มีสารคัดหลั่ง: พื้นผิวที่มีน้ำมูก น้ำลาย เสมหะ สารคัดหลั่งของผู้ป่วย เช่น ห้องสุขา โถส้วม ใช้น้ำยาฟอกขาวเจือจาง 1 ส่วนในน้ำ 9 ส่วน (ความเข้มข้น 0.5% ราดทิ้งไว้อย่างน้อย 15 นาที)
- สำหรับพื้นผิวที่เป็นโลหะ สามารถใช้70% แอลกอฮอล์เทลงผ้าเช็ดทำความสะอาดได้
- สิ่งแวดล้อมที่เป็นวัสดุผ้า ที่อาจปนเป้ือนด้วยเชื้อไวรัสโควิด-19 เช่น เสื้อผ้า ผ้าม่าน ผ้าปูที่นอน ควรทำความสะอาดก่อนนำกลับมาใช้ใหม่ โดยใช้น้ำที่อุณหภูมิ70 องศาเซลเซียสและผงซักฟอกในครัวเรือนได้
แนวทางการทำความสะอาดสำหรับพื้นที่สัมผัสเชื้อ COVID-19
- ควรปิดกั้นบริเวณพื้นที่หรือพื้นผิว ที่ปนเป้ือนเชื้อก่อนดำเนินการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อเพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวของสัมผัสกับเชื้อ
- ควรสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) ที่เหมาะสม ขณะทำความสะอาดพื้นที่หรือพื้นผิว ที่ ปนเปื้อนเชื้อ ระหว่างทำความสะอาด หากถุงมือชำรุดเสียหายมีรอยรั่ว ให้ถอดถุงมือออก และสวมถุงมือคู่ใหม่ทันทีควรกำจัดและทิ้ง PPE แบบใช้แล้วทิ้งหลังจากทำความสะอาดเสร็จสิ้น ในกรณีที่ใช้แว่นตา Goggles ควรทำการฆ่าเชื้อหลังการใช้แต่ละครั้ง และควรล้างมือด้วยสบู่และน้ำทันทีหลังจาก ถอด PPE
- เลือกใช้อุปกรณ์ทำความสะอาดที่มีด้ามจับ เพื่อสัมผัสโดยตรงกับพื้นผิวให้น้อยที่สุด
- เปิดประตูหน้าต่าง เพื่อการระบายอากาศ ไม่เปิดแอร์นำอุปกรณ์ทำความสะอาดทั้งหมดเข้าไปในห้องในคราวเดียว ไม่เดินเข้าเดินออกทำความสะอาดพื้นด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อหรือน้ำยาฟอกขาวที่เตรียมไว้
- เช็ดทำความสะอาด บริเวณที่มีการสัมผัสบ่อยๆ เช่น ปุ่มกด, ราวจับ, ลูกบิดประตู, ที่วางแขน, พนักพิงที่นั่ง, โต๊ะ, รีโมท, คีย์บอร์ด, สวิตช์ไฟ เป็นต้นเปิดประตูหน้าต่างให้อากาศถ่ายเท
- ทำความสะอาดห้องน้ำ รวมถึงสุขภัณฑ์และพื้นผิวในห้องน้ำโดยการราดน้ำยาฟอกขาวทิ้งไว้อย่าง น้อย 15 นาทีแล้วล้างทำความสะอาดพื้นอีกครั้งด้วยผงซักฟอกหรือน้ำยาล้างห้องน้ำตามปกติต้องปิดฝาชักโครกก่อนกดชักโครก
- ซักทำความสะอาด ผ้าม่าน / ผ้าห่ม กรณีที่ซักด้วยน้ำร้อน ใช้ผงซักฟอกในน้ำที่อุณหภูมิ70 องศา เซลเซียส เป็นเวลาอย่างน้อย 25 นาที
- ทิ้งอุปกรณ์ทำความสะอาดที่ทำจากผ้าและวัสดุดูดซับ เช่น ผ้าถูพื้น ผ้าเช็ดพื้นผิว หรืออุปกรณ์แบบใช้แล้วทิ้ง ในถุงขยะแดงติดเชื้อ 3 ชั้น รัดปากถุงให้มิดชิดและเช็ดแอลกอฮอล์ที่ปากถุงทีละชั้น
- ทำการฆ่าเชื้ออุปกรณ์ทำความสะอาดที่ต้องนำกลับมาใช้ใหม่ โดยการแช่ในน้ำยาฟอกขาว
- ทำความสะอาดถังถูพื้น โดยแช่ในน้ำยาฟอกขาวหรือล้างในน้ำร้อน
- การทำความสะอาดพื้นผิว ให้ใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ ไม่ควรพ่นด้วยสเปรย์เนื่องจากจะเป็นการสร้างละออง ทำให้เสมหะ น้ำมูก น้ำลายที่ตกอยู่บนพื้นผิวฟุ้งกระจายขึ้นมาได้ควรหลีกเลี่ยงการสร้างละอองในระหว่างการทำความสะอาด ควรใช้วิธีการเช็ดอย่างต่อเนื่อง
- เมื่อทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว หลีกเลี่ยงการใช้พื้นที่ในวันถัดไปเป็นเวลา 1 วัน
- ทำการกำจัดขยะติดเชื้ออย่างถูกต้องและเหมาะสม
SHABA
SHABA คือระบบการออก Booking Confirmation ของโรงแรม SHA Plus เพื่อให้นักท่องเที่ยวนำใบจองที่ได้รับการชำระเงินล่วงหน้าแล้วไปยื่นในการขอ Certificate of Entry (COE) ในการเดินทางเข้า Phuket Sandbox
สิ่งที่โรงแรมต้องทำในระบบ SHABA
- สร้าง Booking เพื่อออกใบ SHABA เพื่อส่งให้นักท่องเที่ยวไปใช้ในการขอออก COE : https://youtu.be/15_8jRIdiq4
- กด Check-in สำหรับชาวต่างชาติกรอกข้อมูล Passport number สำหรับคนไทยกรอกข้อมูล Passport number และบัตรประชาชน :https://youtu.be/LHDSekCKzgs
- กด Check-out เมื่ออยู่ครบ : https://youtu.be/Lx4GBc4622A
- กด No Show หากนักท่องเที่ยวไม่มาเข้าพัก ให้กด No Show ตอน 6.00น.ของวันถัดไป : https://youtu.be/wCST6prTr4E
- กด shorten stay หากนักท่องเที่ยวกลับก่อนกำหนดและระบุไฟลท์ขากลับ : https://youtu.be/8qWx0n87CWQ
- กดและปริ้นท์ release form ให้นักท่องเที่ยว ในกรณีนักท่องเที่ยวเดินทางต่อไปจังหวัดอื่นในประเทศไทย
กรณีอยู่โรงแรมเดียว 14 คืน > https://youtu.be/15VAH9XO70c
กรณีย้ายโรงแรมภายใน 14 คืน > https://youtu.be/BiDtGrMTD6g
กรณีเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี https://docs.google.com/forms/d/e/1FAIpQLSdHY57o1gKjRA1ZEkqEUaFDi2PplV8_tOUZzWT9NDYJObLMvA/viewform
- การเชื่อมผล Lab
กรณีย้ายโรงแรมแล้ว โรงแรมที่ 2 หาผล Lab ไม่เจอ https://youtu.be/obGpJtq5RUs
กรณีผลแลบครั้งที่ 2 และ ครั้งที่ 3 ทับซ้อนกัน https://youtu.be/YtbNiZUJSkk
วิธีการเพิ่มผล lab (no test) ให้เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี https://youtu.be/g_Fb3z_nFug
Command Center
กรณีที่ต้องรายงานต่อ Command Center
- กรณีนักท่องเที่ยวหายไปจากโรงแรมที่พักเกิน 24 ชั่วโมง
- กรณีนักท่องเที่ยวปฏิเสธการตรวจหาเชื้อโควิด-19
- กรณีไม่ยอมอยู่โรงแรม SHA Plus แล้วไปอยู่บ้าน หรือที่อื่น
- กรณีไม่ยอมแสกนแอพพลิชั่นหมอชนะ รายงานตัว หรือปิดมือถือ
- กรณีหนีออกจากภูเก็ตก่อน 14 วัน
- กรณีมี ครอบครัว ญาติ เพื่อน หรือ Joiner เข้าพบนักท่องเที่ยวก่อนผลตรวจครั้งแรกที่สนามบินออก
- กรณีมีเหตุการณ์ฉุกเฉินที่โรงแรมไม่สามารถควบคุมได้ เช่น การกระทำที่เป็นความเสี่ยงต่อการระบาดของโรคโควิด-19
วิธีการรายงาน
- กด report guest incident/แจ้งเหตุเกี่ยวกับนักท่องเที่ยว
แอพพลิเคชั่นหมอชนะ
Flow การใช้งานของภูเก็ต Check-in & Scan
- ก่อนที่โรงแรมจะใช้งานระบบ Check-in และสแกนได้ จะต้องมีการลงทะเบียนก่อน โดยสามารถ ลงทะเบียนได้ทาง https://forms.gle/gpHy1GFhkcyQakjX6
- เมื่อนักท่องเที่ยวมาถึงครั้งแรก ให้ลงทะเบียนนักท่องเที่ยวผ่านระบบ Check-in ก่อน https://checkin.aws.thailandshaba.com
ถ้าลงทะเบียนนักท่องเที่ยวโดยใช้หมายเลขหนังสือเดินทางหรือ เบอร์โทรศัพท์ในประเทศไทย แล้วภายหลังใช้สแกน QR จะไม่เจอนักท่องเที่ยวในระบบ เพราะระบบจะไม่รู้จัก QR นั้น ถ้าอยากให้ใช้ QR ได้ ให้ทำการเช็คอินด้วย QR code วิธีเช็คอินด้วย QR Code: https://www.youtube.com/watch?v=bx5V8XXpSVM
- สแกนนักท่องเที่ยวรายวัน
ทำการสแกนผ่านแอพพลิเคชั่น สามารถโหลดได้ที่ http://bit.ly/3A2z4pp (เฉพาะ Android เท่านั้น)
ทำการสแกนใช้ผ่าน Web ได้ที่ http://scan.aws.thailandshaba.com
คู่มือการใช้งานแอพพลิเคชั่น หมอชนะสำหรับโรงแรม
https://drive.google.com/drive/folders/1eI3obfvwrwqpXTfE40GrbRcTITX9uhBM
ปัญหาที่พบบ่อย
- ไม่ทำ check-in / check-out
- เป็นโรงแรมที่ 2 แต่เลือกว่าแขกมาจากสนามบิน ทำให้ผล LAB ไม่เข้า และโรงแรมแรก check out ไม่ออก
- มีการอัพเดต SHABA ID แต่ไม่แจ้ง PSAS ทำให้ผล LAB ไม่เข้า
- SHA Plus Manager ไม่อบรมทีมงานในการใช้ thailandshaba ในการจัดการ Booking
- เบอร์โทรที่ให้ไว้ติดต่อไม่ได้
- กรณี SHA Plus Manager ลาออก ไม่ได้ตั้ง SHA Plus Manager ใหม่
กรณีไม่สามารถติดต่อ SHA Plus Manager ได้
หากโทรติดต่อไม่ได้ ทีม support จะส่งเข้า chat ใน SHABA และ รอ 24 ชม. หากยังไม่ตอบจะปิดระบบ SHABA ชั่วคราวจนกว่าโรงแรมจะติดต่อมา
ที่มาของเนื้อหา: ข้อมูลจากสมาคมโรงแรมไทย